วันอังคารที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

บันทึกการอ่านเรื่องที่ ๓๐

วัน ๒๓  เดือน กุมภาพันธุ์  พ.ศ. ๒๕๕๙

ที่มา: มันทนา เรืองรอง .ห่วงใยสุภาพ.พิมพ์ครั้งที่ ๒.กรุงเทพ:สำนักพิมพ์นานมีบุ๊ค.๒๕๔๖.หน้า ๒-๑๒


แอปเปิลสีแดง
                                           เรื่อง ประโยชน์ของเเอปเปิล
แอปเปิลสีแดงเข้มเป็นแอปเปิลสายพันธุ์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด โดยสารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในผิวแอปเปิลสีแดงมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระมากเทียบเท่ากับวิตามินซีถึง 1,500 มิลลิกรัม ซึ่งต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้จะไปทำหน้าที่ขัดขวางการเติบโตของเซลล์มะเร็งในร่างกาย รวมทั้งมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ และยังช่วยป้องกันไม่ให้ผิวพรรณเกิดริ้วรอยแห่งวัย
แอปเปิลสีเขียว
แอปเปิลสีเขียว ขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้สำหรับการลดน้ำหนัก เพราะรสชาติของแอปเปิลเขียวที่แตกต่างและมีน้ำตาลนอกจากนี้เปลือกเขียวๆของแอปเปิลเขียวก็ยังอัดแน่นไปด้วยประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นใยอาหารที่มีสูงช่วยในระบบขับถ่าย ระดับสารต้านอนุมูลอิสระที่สูง รวมทั้งยังช่วยลดความอยากอาหารได้อีกด้วย
แอปเปิลสีเหลือง
แอปเปิลชนิดนี้เราอาจจะไม่ค่อยได้พบเห็นกันบ่อยนัก แต่ประโยชน์ของแอปเปิลสายพันธุ์นี้นั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะประโยชน์ในเรื่องการบำรุงรักษาดวงตา หรือช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ไม่เพียงเท่านั้นแอบเปิลสีเหลืองยังช่วยล้างสารพิษที่สะสมในตับออกจากร่างกาย
แอปเปิลสีชมพู
แอปเปิลที่ชมพูอมแดงมีปริมาณวิตามินซีมากถึง 1 ใน 4 ของปริมาณของวิตามินซีที่ควรได้รับต่อวัน ซึ่งวิตามินซีนี้ก็มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยทำให้ผนังของหลอดเลือดฝอยแข็งแรงมากขึ้น แถมยังลดอาการเลือดออกตามไรฟันได้ดีทีเดียว

บันทึกการอ่านเรื่องที่ ๒๙

วัน ๒๓  เดือน กุมภาพันธุ์  พ.ศ. ๒๕๕๙

ที่มา: วีรนัย  มานะ.เรื่องกล้วยๆ.พิมพ์ครั้งที่ ๒.กรุงเทพ:สำนักพิมพ์ศยาม.๒๕๔๑.หน้า ๒๓-๓๐



                                                                                 เรื่อง กล้วยๆ                                                            กล้วยมีเบต้าเคโรทีน ให้พลังงาน อุดมด้วยน้ำตาลธรรมชาติ ๓ ชนิด คือ ซูโครส ฟรุคโทส และ กลูโคส รวมกับเส้นใยและกากอาหาร กล้วยจะช่วยเสริมเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายทันทีทันใด จากงานวิจัยพบว่ากินกล้วยแค่ ๒ ผล ก็สามารถเพิ่มพลังงานให้อย่างเพียงพอ กับการออกกำลังกายอย่างเต็มที่ได้นานถึง ๙๐ นาที ชาวญี่ปุ่นก็มีสูตรลดน้ำหนักด้วยกล้วยหอมที่เป็นที่สนใจเป็นอย่างมาก กล้วยยังมีคุณประโยชน์อีกหลากหลาย ชนิด ทั้งไฟโตเคมิคัลที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ ป้องกันมะเร็ง มีเอนไซม์ช่วยในการย่อยอาหาร ทำให้กระเพาะอาหารและลำไส้ทำงานหนักลดลง ในกล้วยดิบยังมีฤทธิ์ในการขับพิษสูง และหากกล้วยสุก ก็ทำให้ร่างกายสร้างสารภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้นกว่าปกตินอกจากนี้ ในกล้วยนั้นจะมีวิตามินบี ๑ และบี ๒ ที่ช่วยในการเร่งเผาผลาญ น้ำตาลและไขมัน ทั้งยังช่วยฟื้นฟูร่างกายการจากเหนื่อยล้า อีกยังมีโปแตสเซียมช่วยในการขับโซเดียม อันเป็นหนึ่งในตัวการที่จะทำให้ความดันเลือดสูงออกทางปัสสาวะ และส่งผลให้ลดการบวมของร่างกายได้

บันทึกการอ่านเรื่องที่ ๒๘

วันที่ ๒๓  เดือน กุมภาพันธุ์  พ.ศ. ๒๕๕๙

ที่มา: มนตรี นาคเเก่น..พิมพ์ครั้งที่ ๒.กรุงเทพ:คำต่อคำ.๒๕๔๔.หน้า ๑๔-๒๐


                                                                               เรื่อง เลือด                                                     เนื่องจากเม็ดเลือดแดงเป็นเซลล์ที่ไม่มีนิวเคลียสและไม่สามารถแบ่งตัวได้ จึงต้องมีการสร้างขึ้นทดแทนตลอดเวลาจากไขกระดูก  ด้วยกระบวนการที่เรียกว่า erythropoiesis กระบวนการสร้างนี้ถูกกระตุ้นได้ด้วยฮอร์โมนที่เรียกว่า erythropoietin เม็ดเลือดแดงมีลักษณะรูปร่างคล้ายแผ่นดิสก์ ที่มีด้านเว้าเข้าหากันทั้งสองด้าน  มีความหนาประมาณ 2.4 mm เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 8 mm ลักษณะเว้าของผิวเม็ดเลือดแดง ทำให้เพิ่มพื้นที่ผิวช่วยในกระบวนการแพร่ ของสารต่างๆได้ดี สีแดงของเม็ดเลือดเป็นลักษณะเด่นของเม็ดเลือดชนิดนี้เกิดจากสีของฮีโมโกลบิน (hemoglobin) ซึ่งเป็นโปรตีนที่เป็นองค์ประกอบหลักถึง 95% ของเม็ดเลือดแดง ซึ่งสามารถรวมกับออกซิเจนเพื่อการขนส่งออกซิเจนอย่างมีประสิทธิภาพยิ่ง ในผู้ใหญ่ปกติ จะมีเม็ดเลือดแดงอยู่ประมาณ 4.5-6 ล้านเซลล์ ต่อ 1 ลูกบาศก์มิลลิเมตรของเลือด การที่มีเม็ดเลือดแดงมากเกินไปเรียกภาวะ polycythemia เป็นผลเสียด้านความหนืดของเลือดและลดประสิทธิภาพในการขนส่งสาร การที่มีเม็ดเลือดแดงน้อยเกินไปหรือภาวะเลือดจางเรียก anemia มักพบว่าเป็นความผิดปกติต่อเนื่องมาจากการขาดฮีโมโกลบิน โรคที่พบบ่อยทางพันธุกรรมโดยเฉพาะในคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือโรคธาลัสซีเมีย  มีความผิดปกติของการสร้างฮีโมโกลบินของเม็ดเลือดแดง มักพบผู้ป่วยมีภาวะซีดร่วมด้วย ซึ่งมีความรุนแรงของโรคหลายระดับ

บันทึกการอ่านเรื่องที่ ๒๗

วัน ๒๓  เดือน กุมภาพันธุ์  พ.ศ. ๒๕๕๙

ที่มา: สินชัย บาลีรัตน์.เรื่องน่ารู้.พิมพ์ครั้งที่ ๒.กรุงเทพ:นานมีบุ๊ค.๒๕๔๕.หน้า ๓-๑๔


                                                                                                               เรื่อง น้ำตา                                                                                                             น้ำตานั้นประกอบด้วยสารเคมี 3 ชนิดที่ทราบกันดีว่า เป็นสารเคมีที่เกิดขึ้นใน ขณะที่ร่างกายอยู่ในภาวะตึงเครียดได้แก่ สารเอนโดฟิน ซึ่งเชื่อว่าเป็นตัวรู้สึกผ่อนคลายความรู้สึกเจ็บปวด ชนิดที่ 2 คือ เอซีพีเอช  ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ถือได้ว่า เป็นตัวบ่งชี้ได้มากที่สุดว่าร่างกายกำลังอยู่ในภาวะถูกกดดัน และสารเคมีตัวที่ 3 ซึ่งเป็นตัวสำคัญที่นำมาใช้อธิบาย ความแตกต่างระหว่างเพศในเรื่องการร้องได้คือ โพรแลกติน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีหน้าที่โดยตรงในการผลิตน้ำนม ในสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม โพรแลกตินนี้ จะเป็นตัวส่งเสริมการผลิตน้ำตาด้วย จากข้อค้นพบนี้ได้ถูกนำมาอธิบายความแตกต่าง ระหว่างเพศชายและหญิงในเรื่องการร้องไห้ว่า เพราะผู้หญิงที่โตเป็นผู้ใหญ่มีระดับฮอร์โมนโพรแลกติน ในกระแสเลือดสูงกว่าในวัยเดียวกันถึงเกือบ 60% จึงทำให้ผู้หญิงร้องไห้ง่ายกว่าผู้ชาย สำหรับในวัยเด็กจนถึงวัยแรกรุ่น เด็กชายและเด็กหญิงจะมีระดับทางฮอร์โมนโพรแลกติน ใกล้เคียงกันจึงพบว่าเด็กชายและเด็กหญิงร้องไห้บ่อยพอๆ กัน 

บันทึกการอ่านเรื่องที่ ๒๖

วัน ๒๓  เดือน กุมภาพันธุ์  พ.ศ. ๒๕๕๙

ที่มา: ธีพร บรรจงเปลี่ยน.๙๙ คำถามเด็ด.กรุงเทพ:อี คิว พลัส จีเนียส.๒๕๔๓.หน้า ๗-๑๕

                                                                      เรื่อง  เส้นทางสายไหม
                         เป็นเส้นทางการค้าโบราณซึ่งเริ่มมีมายาวนานถึงสองร้อยปีกว่าก่อนคริสตกาลในยุคของราชวงศ์ฮั่นเเห่งประเทศจีน โดยเริ่มต้นืองฉางอันหรือซีอานในประเทศจีนผ่านไปยังฝั่งตะวันตกของจีนเข้าประเทศอัฟนิสถานเเละอิหร่านเข้าสู่ประเทศเเถบเอเชียกลางเเละไปสิ้นสุดที่ประเทศเเถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในทวีบยุโรป

วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

บันทึกการอ่านเรื่องที่ ๒๕

วัน ๒๒  เดือน กุมภาพันธุ์  พ.ศ. ๒๕๕๙

ที่มา: วีรนิตย์  เเสงสว่าง.โรคน่ารู้.พิมพ์ครั้งที่ ๒.กรุงเทพ:สำนักพิมพ์ศยาม.๒๕๔๑.หน้า ๔๕-๖๐

                                                                     เรื่อง โรคเบาหวาน
                เบาหวาน เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่มีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ อันส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงเกิน โรคเบาหวานจะมีอาการเกิดขึ้นเนื่องมาจากการที่ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลได้อย่างเหมาะสม ซึ่งโดยปกติน้ำตาลจะเข้าสู่เซลล์ร่างกายเพื่อใช้เป็นพลังงานภายใต้การควบคุมของฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งผู้ที่เป็นโรคเบาหวานร่างกายจะไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลที่เกิดขึ้นทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ในระยะยาวจะมีผลในการทำลายหลอดเลือด ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่สภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้

บันทึกการอ่านเรื่องที่ ๒๔

วัน ๒๒  เดือน กุมภาพันธุ์  พ.ศ. ๒๕๕๙

ที่มา: ชนะ เเสงจันทร์.วิทยาศาสตร์.พิมพ์ครั้งที่ ๒.กรุงเทพ:คำต่อคำ.๒๕๔๒.หน้า ๔-๑๕




                                                                 เรื่อง การเกิดภูเขาไฟ
                เกิดจากหินหนืดที่อยู่ใต้เปลือกโลกถูกแรงดันอัดให้แทรกรอยแตกขึ้นสู่ผิวโลก โดยมีแรงปะทุหรือแรงระเบิดเกิดขึ้นสิ่งที่พุ่งออกมาจากภูเขาไฟเมื่อภูเขาไฟระเบิดก็คือ หินหนืด ไอน้ำ ฝุ่นละออง เศษหินและแก๊สต่างๆ โดยจะพุ่งออกมาจากปล่องภูเขาไฟ บริเวณที่มีโอกาสเกิดภูเขาไฟ แนวรอยต่อระหว่างเพลตจะเป็นบริเวณที่มีโอกาสเกิดภูเขาไฟได้มากที่สุด โดยเฉพาะบริเวณที่มีการมุดตัวของแผ่นเปลือกโลก ใต้พื้นมหาสมุทรลงไปสู่บริเวณใต้เปลือกโลกที่เป็นส่วนของทวีป เพราะเปลือกโลกแผ่นเปลือกโลกที่มุดตัวลงไปจะถูกหลอมกลายเป็นหินหนืด จึงแทรกตัวขึ้นมาบริเวณผิวโลกได้ง่ายกว่าบริเวณอื่น บริเวณที่อยู่ห่างจากรอยต่อระหว่างเปลือกโลก ก็อาจเกิดภูเขาไฟได้เช่นกัน ซึ่งเกิดขึ้นโดยกระบวนการที่หินหนืดถูกดันขึ้นมาตามรอยแยกในชั้นหิน
                

บันทึกการอ่านเรื่องที่ ๒๓

วัน ๒๒  เดือน กุมภาพันธุ์  พ.ศ. ๒๕๕๙

ที่มา: มนัส หัสดำ.ความรู้รอบตัว.พิมพ์ครั้ง ๒.กรุงเทพ:นานมีบุ๊ค.๒๕๔๓.หน้า ๖-๑๔



                                                              เรื่อง ๘ เคล็ดลับเรียนให้ได้เกรดดี
              1. แปลงข้อมูลให้เป็นรูปภาพ
 การแปลงข้อมูลต่างๆ ให้เป็นรูปภาพ จะทำให้เราสามารถจำได้ดี รูปภาพในที่นี้รวมถึงแผนภูมิแท่ง แผนภูมิวงกลม แผนที่ความคิด ลองฝึกจดแลคเชอร์โดยมีรูปประกอบ แล้วจะพบว่ามันจำง่ายกว่าข้อความติดกัน
              2. เชื่อมโยงความรู้ใหม่เข้ากับความรู้เก่า
ในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ให้พยายามเชื่อมโยงเข้ากับพื้นความรู้เดิมที่มีอยู่แล้ว จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจสิ่งใหม่ที่เรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น
              3. ติวให้เพื่อน
การติวให้คนอื่น นอกจากจะเป็นการทบทวนความรู้ของเราอีกรอบแล้ว ในระหว่างเรียบเรียงเพื่อนำไปอธิบายให้เพื่อนเข้าใจ สมองของเรายังมีการพัฒนาปรับปรุงสิ่งที่เรียนรู้ไป ให้มีการจัดวางอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น และทำให้เราเข้าใจความรู้เหล่านั้นลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นไปอีก
              4. หลีกเลี่ยงการจดโน้ตด้วยข้อความล้วนๆ
 เวลาที่เราจดโน้ตไว้อ่านทบทวนเอง เราก็ไม่ควรเขียนเฉพาะตัวหนังสือ ลองวาดภาพ เขียนกราฟ เขียนแผนภูมิแทรกลงไปบ้าง จะช่วยให้สนุกขึ้นเวลากลับมาอ่านทบทวน และทำให้จดจำได้ดียิ่งขึ้น  เพราะมันจะช่วยกระตุ้นให้สมองเกิดการคิดวิเคราะห์ได้เป็นอย่างดี
               5. วางรากฐานให้มั่นคง
 ถ้าอยากจะเข้าใจบทเรียนทั้งหมดได้โดยไม่สับสน การค่อยๆ เรียนรู้ไปทีละสเต็ปจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
                6. อ่านบทสรุปก่อนเริ่มเรียน
อ่านบทสรุปไปก่อนล่วงหน้า เพราะจะช่วยให้เห็นภาพรวมของเนื้อหาทั้งหมดก่อน และเมื่อย้อนกลับมาไล่อ่านอีกครั้งก็จะทำให้เข้าใจได้ดียิ่งขึ้น
                7. ตั้งใจฟังในห้องเรียน
                8. ฝึกจับประเด็น
การวิเคราะห์ให้แตกฉานว่าอะไรคือหัวใจหลักของสิ่งที่เขียนอยู่ในหนังสือหรือสิ่งที่อาจารย์พูด ฉะนั้น เวลาอ่านหนังสือจบบทก็อย่าลืมตั้งคำถามกับตัวเองด้วยว่า หัวใจสำคัญหรือประเด็นหลักของบทนี้คืออะไร


                  

บันทึกการอ่านเรื่องที่ ๒๒


วันที่ ๒๒  เดือน กุมภาพันธุ์  พ.ศ. ๒๕๕๙

ที่มา: สละ นาคบำรุง.พิมพ์ครั้งที่ ๒.กรุงเทพ:บริษัทโรงพิมพ์เนชั่นบุ๊ค.๒๕๔๓.หน้า ๑-๑๑


                  
                                                                                                   เรื่อง น้ำเกิดเเละน้ำตาย
                 ดวงจันทร์จะมีอิทธิพลต่อน้ำขึ้นน้ำลงแล้ว ดวงอาทิตย์ก็มีบทบาทต่อการเกิดน้ำขึ้นน้ำลงเช่นกัน เพราะดวงอาทิตย์ก็มีแรงโน้มถ่วง แต่เนื่องจากดวงอาทิตย์อยู่ไกลจากโลกมาก ผลของแรงโน้มถ่วงของดวงอาทิตย์ที่มีต่อการเกิดน้ำขึ้นน้ำลงบนโลกจึงมีแค่เพียงครึ่งหนึ่งของผลจากดวงจันทร์เท่านั้นในวันเพ็ญ (ขึ้น 15 ค่ำหรือวันเดือนมืด (แรม 15 ค่ำดวงจันทร์ โลกและดวงอาทิตย์จะอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกัน ทำให้แรงโน้มถ่วงจากดวงจันทร์และดวงอาทิตย์เสริมหรือหักล้างกันมากที่สุด ดังนั้น ในวันทั้งสองนี้ น้ำจึงขึ้นสูงที่สุดและลดลงต่ำที่สุด เรียกว่าเป็น นํ้าเกิด น้ำจะขึ้นสูงสุดและลดลงต่ำสุดเดือนละสองวัน
                    ส่วนในวันขึ้น 7 (หรือ 8) ค่ำ และแรม 7 (หรือ 8) ค่ำ ดวงจันทร์จะทำมุมตั้งฉากกับดวงอาทิตย์เมื่อมองจากโลก ทำให้แรงโน้มถ่วงจากดวงจันทร์และดวงอาทิตย์หักล้างกัน น้ำจึงขึ้นต่ำที่สุดและลงน้อยที่สุด หรือมีความแตกต่างของระดับน้ำที่ขึ้นและลงน้อยที่สุด เรียกว่าเป็น นํ้าตาย  ซึ่งจะเกิดขึ้นเดือนละสองวันเช่นกัน
 

บันทึกการอ่านเรื่องที่ ๒๑

วัน ๒๒  เดือน กุมภาพันธุ์  พ.ศ. ๒๕๕๙

ที่มา: ธีพร บรรจงเปลี่ยน.๙๙ คำถามเด็ด.กรุงเทพ:อี คิว พลัส จีเนียส.๒๕๔๓.หน้า ๑-๗

                                                     เรื่อง ความโดดเด่นของอากาศเเบบเมดิเตอร์เรเนียน
คือ การมีฝนตกในช่วงถดูหนาวึ่งเหตุผลที่ฝนตกก็เพราะว่าได้รับอิทธิพลจากลมตะวันตกที่พัดผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียนก่อตัวกลายเป็นฝนเข้ามายังบริเวณชายฝั่ง สำหรับในช่วงฤดูร้อน อากาศจะร้อน เเห้งเเล้ง เเละมีอุณหภูมิสูง